www.beproudclinic.com

เสริมคาง แล้ว อักเสบ: สัญญาณอันตรายที่ต้องรีบจัดการก่อนสายเกินไป

การศัลยกรรมเสริมคางช่วยปรับรูปหน้าให้ดูเรียววีเชฟและสมดุลมากขึ้น แต่หนึ่งในความเสี่ยงที่คนไข้กังวลใจที่สุดคืออาการ เสริมคาง แล้ว อักเสบ ซึ่งหากปล่อยทิ้งไว้นานอาจนำไปสู่การติดเชื้อรุนแรงจนต้องถอดซิลิโคนออก อาการอักเสบมักเกิดขึ้นได้จากหลายปัจจัย ทั้งจากการดูแลตัวเอง การรับประทานอาหาร หรือความสะอาดของแผลผ่าตัด

ที่ BeProud Clinic นำโดย นพ.กิตติ์ภวิศ พสุจรัสพงศ์ (หมออาร์ม) และ ทีมแพทย์ เราให้ความสำคัญกับการให้ข้อมูลที่โปร่งใสเพื่อให้คนไข้สามารถสังเกตอาการผิดปกติได้ตั้งแต่ระยะเริ่มต้น เพื่อความปลอดภัยและผลลัพธ์ที่สวยงามในระยะยาวครับ

วิธีแยกแยะ: บวมปกติ vs เสริมคาง แล้ว อักเสบ

ในช่วง 1-7 วันแรก อาการบวมเป็นเรื่องปกติครับ แต่คุณจะรู้ได้อย่างไรว่าอาการที่เป็นอยู่เริ่มก้าวเข้าสู่ภาวะอักเสบแล้ว? ลองเช็คตามตารางนี้ครับ

อาการบวมตามปกติ (Normal)อักเสบ/ติดเชื้อ (Inflamed)
ระดับความเจ็บค่อยๆ ลดลงในวันที่ 3-5เจ็บปวดมากขึ้นเรื่อยๆ หรือปวดตุบๆ
สีผิวบริเวณคางอาจมีรอยเขียวช้ำ แต่สีผิวไม่เปลี่ยนแดงจัด เข้มขึ้น หรือมีรอยคล้ำผิดปกติ
อุณหภูมิอุณหภูมิผิวปกติผิวหนังบริเวณคางรู้สึกร้อน
การบวมค่อยๆ ยุบลงตามเวลาบวมพองขึ้นมาใหม่ หรือบวมเป็นหย่อมๆ
สิ่งคัดหลั่งไม่มี หรือมีน้ำเหลืองซึมเล็กน้อยช่วงแรกมีหนองหรือของเหลวกลิ่นเหม็น ไหลจากแผล

สาเหตุที่ทำให้ เสริมคาง แล้ว อักเสบ

  • การดูแลความสะอาดแผลในปาก: สำหรับเคสแผลใน หากทำความสะอาดเศษอาหารไม่หมด จะเกิดการสะสมของแบคทีเรียจนแผลอักเสบได้
  • การรับประทานอาหารแสลง: อาหารหมักดอง อาหารทะเล หรืออาหารรสจัด สามารถกระตุ้นให้แผลอักเสบและบวมแดงขึ้นมาได้
  • ภูมิต้านทานร่างกายต่ำ: พักผ่อนไม่เพียงพอหรือมีโรคประจำตัว ทำให้ร่างกายซ่อมแซมแผลได้ช้าและติดเชื้อง่ายขึ้น
  • ซิลิโคนเคลื่อนหรือฝืนเนื้อ: หากซิลิโคนยาวหรือใหญ่เกินไปจนกดทับเนื้อเยื่อมากเกินไป อาจกระตุ้นให้เกิดการอักเสบเรื้อรัง

คำแนะนำจาก นพ.กิตติ์ภวิศ พสุจรัสพงศ์ (หมออาร์ม)

“ปัญหา เสริมคาง แล้ว อักเสบ มักเริ่มจากอาการเล็กๆ ที่คนไข้มองข้ามครับ ผมมักเน้นย้ำเรื่องความสะอาดของช่องปากและการงดอาหารแสลงอย่างเคร่งครัดใน 1 เดือนแรก เพราะถ้าติดเชื้อจนเป็นหนอง การรักษาจะยากกว่าการป้องกันมากครับ หากรู้สึกเจ็บตุบๆ หรือเห็นรอยแดงที่คาง ให้รีบแจ้งทีมงานทันทีครับ”

— นพ.กิตติ์ภวิศ พสุจรัสพงศ์ (หมออาร์ม)

แนวทางการรักษาเมื่อเกิดการอักเสบ

หากคุณพบว่ามีอาการ เสริมคาง แล้ว อักเสบ แพทย์จะพิจารณาการรักษาตามระดับความรุนแรงดังนี้:

  1. การใช้ยาปฏิชีวนะ (Antibiotics): หากอยู่ในระยะเริ่มต้น แพทย์จะให้ยาลดการอักเสบและยาฆ่าเชื้อชนิดเข้มข้นเพื่อระงับการติดเชื้อ
  2. การล้างทำความสะอาดแผล (Irrigation): แพทย์จะทำการล้างทำความสะอาดบริเวณรอบซิลิโคนเพื่อกำจัดเชื้อแบคทีเรีย
  3. การถอดซิลิโคนพักเนื้อ: ในกรณีที่ติดเชื้อรุนแรงหรือมีหนอง จำเป็นต้องถอดซิลิโคนออกเพื่อรักษาเนื้อเยื่อให้หายดีก่อน จึงจะสามารถเสริมใหม่ได้ในอนาคต

การดูแลเรื่องอาหารหลังผ่าตัดเป็นปัจจัยที่สำคัญมากไม่แพ้การกินยาครับ โดยเฉพาะการเสริมคางที่แผลมักอยู่ในช่องปาก ซึ่งเป็นบริเวณที่สัมผัสกับอาหารโดยตรง หากเลือกทานไม่เหมาะสม อาจทำให้ เสริมคาง แล้ว อักเสบ หรือแผลหายช้ากว่าปกติได้

ทีมแพทย์ ของ BeProud Clinic นำโดย นพ.กิตติ์ภวิศ พสุจรัสพงศ์ (หมออาร์ม) ได้สรุปรายการอาหารที่ควร “เลี่ยง” อย่างเคร่งครัดในช่วง 1 เดือนแรก ดังนี้ครับ

6 กลุ่มอาหารต้องห้าม เพื่อลดความเสี่ยงคางอักเสบ

1. อาหารหมักดองทุกชนิด (High Bacteria Risk)

  • ตัวอย่าง: ปลาร้า, กะปิ, ผักดอง, ผลไม้รถเข็นที่แช่อิ่ม
  • เหตุผล: อาหารกลุ่มนี้มีโอกาสปนเปื้อนแบคทีเรียสูงมาก ซึ่งเป็นตัวกระตุ้นหลักที่ทำให้แผลติดเชื้อและอักเสบจนเป็นหนองได้ครับ

2. อาหารที่มีโซเดียมสูง (High Sodium)

  • ตัวอย่าง: ส้มตำ, ยำรสจัด, ขนมขบเคี้ยว, บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป
  • เหตุผล: โซเดียมทำให้ร่างกายกักเก็บน้ำ ส่งผลให้คางที่ผ่าตัดมาบวมมากกว่าปกติ และความดันที่เพิ่มขึ้นอาจทำให้แผลตึงจนเจ็บได้

3. อาหารทะเล (Allergy & Inflammation Trigger)

  • ตัวอย่าง: กุ้ง, หอย, ปู, ปลาหมึก
  • เหตุผล: ในบางรายอาจมีอาการแพ้แฝง ซึ่งทำให้เกิดผดผื่นหรืออาการคันบริเวณแผล หากเกาหรือสัมผัสบ่อยจะทำให้เชื้อโรคเข้าสู่แผลได้ง่ายขึ้น

4. อาหารรสจัดและของร้อน (Irritants)

  • ตัวอย่าง: แกงเผ็ด, ต้มยำ, ชาหรือกาแฟที่ร้อนจัด
  • เหตุผล: ความร้อนและเครื่องเทศจะทำให้เส้นเลือดขยายตัว กระตุ้นการสูบฉีดเลือดจนแผลบวมแดง และหากเป็นแผลในปาก ความเผ็ดจะทำให้แสบระคายเคืองแผลอย่างมาก

5. อาหารที่ต้องเคี้ยวแรงหรือของแข็ง (Mechanical Stress)

  • ตัวอย่าง: เนื้อวัวเหนียวๆ, ถั่วทอด, น้ำแข็ง, ผลไม้เนื้อแข็ง
  • เหตุผล: การบดเคี้ยวที่รุนแรงจะส่งผลกระทบต่อกล้ามเนื้อคาง อาจทำให้ซิลิโคนที่ยังไม่รัดแกนเกิดการเคลื่อนที่หรือบิดเบี้ยวได้

6. เครื่องดื่มแอลกอฮอล์และบุหรี่ (Healing Inhibitors)

  • เหตุผล: แอลกอฮอล์ทำให้เลือดสูบฉีดจนบวมช้ำหนัก ส่วนบุหรี่ทำให้ออกซิเจนไปเลี้ยงแผลไม่เพียงพอ ส่งผลให้แผลหายช้าและเสี่ยงต่อการที่เนื้อเยื่อรอบซิลิโคนจะเน่าเสีย

คำแนะนำเพิ่มเติมจาก นพ.กิตติ์ภวิศ พสุจรัสพงศ์ (หมออาร์ม)

“ในสัปดาห์แรก ผมแนะนำให้ทานอาหารอ่อน เช่น โจ๊ก หรือข้าวต้มที่ไม่ร้อนจัด และต้องบ้วนปากด้วยน้ำสะอาดหรือน้ำยาบ้วนปากที่ไม่มีแอลกอฮอล์ทุกครั้งหลังทานอาหาร เพื่อไม่ให้มีเศษอาหารตกค้างไปสะสมจนทำให้ เสริมคาง แล้ว อักเสบ ครับ วินัยการกินในช่วง 1 เดือนแรกคือหัวใจของคางที่สวยและปลอดภัยครับ” — นพ.กิตติ์ภวิศ พสุจรัสพงศ์ (หมออาร์ม)

ช่องทางติดต่อ BeProud Clinic (ข้อมูลอัปเดต 2025)

โดย นพ.กิตติ์ภวิศ พสุจรัสพงศ์ (หมออาร์ม) และ ทีมแพทย์

คำถามที่พบบ่อย (FAQs)

1. เสริมคางมา 1 เดือนแล้วเพิ่งจะมาแดง ปกติไหม?

ไม่ปกติครับ หากผ่านไป 1 เดือนแล้วเพิ่งเริ่มแดง อาจเกิดการติดเชื้อย้อนหลัง (Delayed Infection) หรือร่างกายเริ่มต่อต้านซิลิโคน ควรรีบพบแพทย์ครับ

2. ถ้าอักเสบต้องถอดซิลิโคนออกทุกเคสไหม?

ไม่เสมอไปครับ หากมาพบแพทย์ไวในระยะเริ่มแรก การทานยาฆ่าเชื้ออาจช่วยให้หายได้โดยไม่ต้องถอดครับ

3. ยาสีฟันมีส่วนทำให้แผลในปากอักเสบไหม?

มีส่วนครับ ในช่วงแรกแนะนำให้ใช้ยาสีฟันเด็กหรือน้ำยาบ้วนปากที่ไม่มีแอลกอฮอล์เพื่อลดการระคายเคืองแผลผ่าตัด

4. มีไข้ร่วมกับคางบวมแดง อันตรายไหม?

อันตรายมากครับ เป็นสัญญาณบ่งบอกว่าการติดเชื้ออาจเริ่มเข้าสู่กระแสเลือด ต้องพบแพทย์โดยด่วนที่สุด

5. หลังถอดซิลิโคนเพราะอักเสบ ต้องรอนานแค่ไหนถึงจะเสริมใหม่ได้?

โดยปกติแนะนำให้พักเนื้ออย่างน้อย 3-6 เดือน เพื่อให้เนื้อเยื่อภายในรักษาตัวเองจนสมบูรณ์และไม่มีเชื้อหลงเหลือครับ

References

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save
Scroll to Top