เพิ่งทำปากกระจับมาหมาดๆ นอกจากจะตื่นเต้นกับทรงปากใหม่แล้ว อีกหนึ่งคำถามสำคัญที่ค้างคาใจและส่งผลโดยตรงต่อความสวยของแผลก็คือ “หลังทําปากกระจับ กินอะไรได้บ้าง?” เพราะการเลือกรับประทานอาหารในช่วงพักฟื้นถือเป็นหัวใจสำคัญที่จะช่วยลดอาการบวม ลดความเสี่ยงในการติดเชื้อ และทำให้แผลสมานตัวได้เร็วขึ้น การ “ตามใจปาก” แค่ชั่วครู่ อาจส่งผลให้ปากบวมนานขึ้นหรือเกิดปัญหาตามมาได้ วันนี้ BeProud Clinic ได้รวบรวมสุดยอดคู่มืออาหารสำหรับคนทำปากกระจับมาให้แบบจัดเต็ม รับรองว่าทำตามนี้… ปากสวยเข้าที่ไวแน่นอน!
ทำไม “อาหารการกิน” ถึงสำคัญที่สุดในช่วงพักฟื้น?
ในช่วง 1-2 สัปดาห์แรกหลังการผ่าตัด ริมฝีปากของคุณจะยังคงบอบบางและมีแผลเย็บอยู่ อาหารที่คุณกินเข้าไปจะส่งผลโดยตรง 3 ด้านด้วยกัน:
- อาการบวม: อาหารที่มีโซเดียมสูงจะทำให้ร่างกายอุ้มน้ำและบวมมากขึ้น
- การสมานแผล: สารอาหารอย่างโปรตีนและวิตามินซีจำเป็นอย่างยิ่งต่อการซ่อมแซมเนื้อเยื่อ
- การระคายเคือง: อาหารที่แข็งหรือรสจัดอาจไปเสียดสีหรือระคายเคืองแผล ทำให้แผลอักเสบหรือปริได้
เปิดลิสต์ “อาหารเทวดา” ที่คนทำปากควรกิน
ในช่วงพักฟื้น โดยเฉพาะ 7-14 วันแรก ให้เน้นอาหารที่ “อ่อน เคี้ยวง่าย และมีประโยชน์” เป็นหลัก
ประเภทอาหาร | ตัวอย่างเมนูที่แนะนำ | ประโยชน์ |
อาหารอ่อน/เหลว | โจ๊ก, ข้าวต้ม (ไม่ร้อนจัด), ซุปฟักทอง, ไข่ตุ๋น, มันบด, โยเกิร์ต, เจลลี่ | ทานง่าย ไม่ต้องเคี้ยวเยอะ ลดการขยับปาก ป้องกันแผลกระทบกระเทือน |
โปรตีนคุณภาพดี | เนื้อปลาต้ม, ไข่ต้ม, นม, นมถั่วเหลือง, อกไก่ปั่น | ช่วยซ่อมแซมเนื้อเยื่อและกล้ามเนื้อที่บาดเจ็บ ทำให้แผลสมานตัวเร็วขึ้น |
วิตามินซีสูง | น้ำส้มคั้น, น้ำฝรั่ง (ควรเป็นแบบไม่หวานจัด), กีวี่, เบอร์รี่ (ทานง่ายๆ) | ช่วยในการสร้างคอลลาเจน ทำให้เส้นเลือดฝอยแข็งแรงและแผลหายเร็ว |
เครื่องดื่ม | น้ำเปล่าสะอาด (สำคัญที่สุด), น้ำฟักทอง, น้ำใบบัวบก (ลดช้ำ) | ช่วยให้ร่างกายสดชื่น ขับของเสีย และลดอาการบวมช้ำได้ดี |
โจ๊กและข้าวต้ม
เมนูคลาสสิกที่ทานง่ายที่สุด ควรเป็นโจ๊กหมูสับละเอียดหรือข้าวต้มปลาเนื้อนุ่มๆ ที่ปรุงรสอ่อนๆ และต้อง “พักให้เย็น” ก่อนทานเสมอ ห้ามทานขณะร้อนจัดเด็ดขาด
ไข่และเต้าหู้
เป็นแหล่งโปรตีนที่ย่อยง่ายและเนื้อสัมผัสนุ่มนวล ไม่ว่าจะเป็นไข่ตุ๋น ไข่ต้ม หรือเต้าหู้ไข่ในแกงจืด ล้วนเป็นตัวเลือกที่ดีเยี่ยม
ผักและผลไม้ปั่น
การนำผักผลไม้ไปปั่นจะช่วยให้คุณได้รับสารอาหารโดยไม่ต้องเคี้ยว เช่น สมูทตี้กล้วย, อะโวคาโดปั่น หรือซุปผักโขม
ลิสต์ “อาหารต้องห้าม” เด็ดขาด! ถ้าไม่อยากแผลพัง
นี่คือกลุ่มอาหารที่ควร “งด” อย่างจริงจัง โดยเฉพาะในช่วง 2 สัปดาห์แรก เพื่อป้องกันอาการบวม การอักเสบ และการติดเชื้อ
อาหารรสจัด (เผ็ด เปรี้ยว เค็มจัด)
ความเผ็ดและความเปรี้ยวจะทำให้เกิดการระคายเคืองที่แผลโดยตรง ส่วนความเค็มจัดจะดึงน้ำไว้ในร่างกาย ทำให้ปากบวมฉุและยุบช้ามาก
ของหมักดองและอาหารทะเล
อาหารกลุ่มนี้มีความเสี่ยงสูงที่จะมีเชื้อแบคทีเรียปนเปื้อนและอาจกระตุ้นให้เกิดอาการแพ้ได้ เช่น ปลาร้า, กุ้งเต้น, ส้มตำปู, กิมจิ ควรงดไปก่อนเพื่อป้องกันการติดเชื้อ
อาหารที่แข็งและเหนียว
เช่น ถั่ว, ขนมกรุบกรอบ, สเต็ก, ข้าวเหนียว, หมูกรอบ เพราะต้องใช้แรงเคี้ยวมาก อาจทำให้ไหมที่เย็บไว้ปริหรือหลุดได้
เครื่องดื่มแอลกอฮอล์และบุหรี่
นี่คือข้อห้ามร้ายแรงที่สุด! แอลกอฮอล์จะกระตุ้นให้เลือดสูบฉีดและทำให้บวมมากขึ้น ส่วนบุหรี่มีสารนิโคตินที่ทำให้หลอดเลือดหดตัว ส่งผลให้เลือดไปเลี้ยงแผลได้น้อยลง แผลจะหายช้าและเสี่ยงติดเชื้อสูงมาก
ไทม์ไลน์การกิน: ช่วงไหนควรกินอะไร?
ช่วง 1-3 วันแรก (ช่วงบวมสูงสุด)
เน้นอาหารเหลวและเย็นเท่านั้น เช่น โจ๊กที่เย็นแล้ว, ซุปเย็น, เจลลี่, น้ำเปล่าสะอาด เพื่อลดการกระทบกระเทือนและใช้ความเย็นช่วยห้ามเลือด
ช่วงวันที่ 4-14 (ช่วงเริ่มยุบบวม)
เริ่มทานอาหารอ่อนๆ ที่เคี้ยวง่ายได้ เช่น ข้าวต้ม, ไข่ตุ๋น, ปลาเนื้อขาวนึ่ง ยังคงต้องปรุงรสอ่อนและงดของแสลงทุกชนิด
หลัง 14 วันขึ้นไป (หลังตัดไหม)
แผลเริ่มสมานตัวดีขึ้น สามารถค่อยๆ กลับมาทานอาหารที่เนื้อแข็งขึ้นเล็กน้อยได้ แต่ยังคงต้องงดอาหารรสจัดและของหมักดองไปก่อนจนกว่าจะครบ 1 เดือน
เทคนิคการกินหลังทำปากกระจับ
- ใช้ช้อนเล็ก: เลือกใช้ช้อนขนาดเล็ก (เช่น ช้อนกาแฟ หรือช้อนไอศกรีม) ค่อยๆ ตักอาหารป้อนเข้าปากช้าๆ
- ห้ามใช้หลอดดูด: แรงดูดจากการใช้หลอดจะทำให้เกิดแรงดันในช่องปากและกระทบกระเทือนแผลโดยตรง อาจทำให้เลือดออกหรือแผลปริได้
- ดื่มน้ำสะอาดบ่อยๆ: การจิบน้ำบ่อยๆ ช่วยให้ช่องปากสะอาดและลดอาการปากแห้งได้
BeProud Clinic: เราใส่ใจในทุกรายละเอียดหลังการผ่าตัด
ที่ BeProud Clinic เราเข้าใจดีว่าคนไข้ที่เพิ่งผ่าตัดมามีความกังวลมากมาย โดยเฉพาะเรื่อง “หลังทําปากกระจับ กินอะไรได้บ้าง” เราจึงให้ความสำคัญกับการให้ข้อมูลที่ชัดเจนและปฏิบัติได้จริง
ทำไมถึงควรไว้วางใจคำแนะนำของเรา?
จากการดูแลคนไข้ปากกระจับมานับไม่ถ้วน เราได้เห็นผลลัพธ์ของการดูแลตัวเองที่ดีและไม่ดีมาโดยตลอด ทีมแพทย์ของเราจึงตกผลึกคำแนะนำเหล่านี้มาจากประสบการณ์ตรง เพื่อให้คนไข้ของเราได้ผลลัพธ์ที่สวยงามและปลอดภัยที่สุด เราไม่ได้จบแค่การผ่าตัด แต่เราดูแลคุณไปจนถึงวันที่แผลหายสนิท
คำแนะนำพิเศษจาก ทีมแพทย์ ของเรา
ทีมแพทย์ของเรา นำโดย นายแพทย์กิตติ์ธนัช แต้รัตนชัย (หมออาร์ม) มักจะเน้นย้ำกับคนไข้เสมอว่า “วินัยในการกินช่วง 2 สัปดาห์แรก คือตัวตัดสินเลยว่าปากจะสวยเข้าที่เร็วหรือช้า” การอดทน “งด” ของแสลงในช่วงนี้ จะช่วยให้คุณมีความสุขกับปากสวยๆ ได้เร็วยิ่งขึ้นแน่นอน
ปรึกษาทุกเรื่องการดูแลตัวเองหลังทำปากกระจับ
หากคุณมีคำถามเพิ่มเติมเกี่ยวกับอาหารการกิน หรือมีอาการผิดปกติใดๆ อย่าลังเลที่จะติดต่อเราเพื่อรับคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญ
- ที่อยู่: The Crystal Veranda ชั้น 2 ห้อง 222 ถนนประดิษฐ์มนูธรรม แขวงลาดพร้าว เขตลาดพร้าว กรุงเทพมหานคร 10230
- เบอร์โทรศัพท์: 099-246-9692
- เว็บไซต์: https://www.beproudclinic.com/
- Facebook: BEPROUD Clinic (บีพราวด์ คลินิก)
- LINE Official: @beproudclinic
คำถามที่พบบ่อย
หลังทำปากกระจับ ดื่มกาแฟได้ไหม?
ควรงดหรือเลี่ยงไปก่อนใน 3-5 วันแรก เพราะคาเฟอีนอาจกระตุ้นการไหลเวียนเลือดและส่งผลต่อความดันโลหิตได้ และที่สำคัญคือห้ามดื่มกาแฟที่ร้อนจัดเด็ดขาด
เผลอกินของเผ็ดไปนิดหน่อย ทำอย่างไรดี?
ให้รีบบ้วนปากด้วยน้ำสะอาด (ห้ามบ้วนแรง) หรือน้ำเกลือสำหรับบ้วนปากเบาๆ เพื่อล้างความระคายเคืองออก และสังเกตอาการ หากมีอาการบวมแดงหรือปวดมากขึ้น ควรรีบปรึกษาคลินิก
ส้มตำปลาร้าเมนูโปรด กินได้เมื่อไหร่?
ควรงดอย่างเด็ดขาดอย่างน้อย 1 เดือนเต็ม! เพราะเป็นเมนูที่มีครบทั้งของหมักดอง รสเผ็ดจัด และเค็มจัด ซึ่งเสี่ยงต่อการติดเชื้อและทำให้บวมอย่างมาก
จำเป็นต้องกินน้ำใบบัวบกหรือน้ำฟักทองทุกวันไหม?
ไม่ถึงกับจำเป็นต้องทุกวัน แต่การดื่มในช่วงสัปดาห์แรกจะช่วยลดอาการบวมและฟกช้ำได้ดีมาก สิ่งที่จำเป็นที่สุดคือน้ำเปล่าที่สะอาดครับ
เมื่อไหร่จะกลับมากินหมูกระทะได้?
แนะนำให้รออย่างน้อย 1 เดือน หรือจนกว่าแผลจะสมานตัวสนิทและไม่รู้สึกตึงแล้ว เพราะการอ้าปากกว้างๆ เพื่อคีบหมู และการทานอาหารร้อนๆ อาจส่งผลเสียต่อแผลได้
References
- Harvard Health Publishing – How to boost your immune system (Discusses nutrition). (www.health.harvard.edu/staying-healthy/how-to-boost-your-immune-system)
- MedlinePlus – Wound care – surgical (post-op diet guidelines). (medlineplus.gov/ency/patientinstructions/000040.htm)
- British Dietetic Association (BDA) – Eating for wound healing. (www.bda.uk.com/resource/eating-for-wound-healing.html)