www.beproudclinic.com

เสริมจมูก ติดเชื้อ: รู้ทันสัญญาณอันตรายและวิธีป้องกันที่ดีที่สุด

การเสริมจมูกคือการศัลยกรรมที่มอบความมั่นใจและเปลี่ยนมิติของใบหน้าได้อย่างน่าทึ่ง แต่ท่ามกลางความสวยงามนั้น ก็มีความเสี่ยงที่ทุกคนต้องตระหนักและให้ความสำคัญอย่างสูงสุด นั่นคือภาวะ “เสริมจมูก ติดเชื้อ” ซึ่งถือเป็นภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรงและไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น แม้จะมีโอกาสเกิดน้อยมากในคลินิกที่ได้มาตรฐาน แต่การมีความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับสาเหตุ อาการเตือน และวิธีป้องกัน จะเป็นเกราะป้องกันที่ดีที่สุด ช่วยให้คุณดูแลตัวเองได้อย่างปลอดภัยและรับมือกับสถานการณ์ได้อย่างทันท่วงที

ภาวะ “เสริมจมูก ติดเชื้อ” คืออะไร และเกิดขึ้นได้อย่างไร?

ภาวะเสริมจมูกติดเชื้อ คือการที่แผลผ่าตัดภายในโพรงจมูกเกิดการอักเสบจากการปนเปื้อนของเชื้อแบคทีเรีย ซึ่งอาจเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ ทั้งในระหว่างการผ่าตัดและช่วงพักฟื้น ร่างกายจะตอบสนองต่อเชื้อโรคด้วยการอักเสบอย่างรุนแรง หากไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที อาจนำไปสู่ปัญหาที่ซับซ้อน เช่น เนื้อเยื่อเสียหาย หรือจำเป็นต้องถอดซิลิโคนออก

เจาะลึกสาเหตุหลักที่อาจนำไปสู่การติดเชื้อ

  • มาตรฐานความสะอาดของห้องผ่าตัด: การใช้อุปกรณ์ที่ไม่ได้ผ่านการฆ่าเชื้ออย่างสมบูรณ์ หรือสภาพแวดล้อมในห้องผ่าตัดที่ไม่ปลอดเชื้อ เป็นปัจจัยเสี่ยงอันดับต้นๆ
  • การดูแลแผลหลังผ่าตัดที่ไม่ถูกต้อง: การปล่อยให้แผลเปียกน้ำ การสัมผัสแผลด้วยมือที่ไม่สะอาด หรือการแคะแกะเกาบริเวณจมูก ล้วนเป็นการเปิดทางให้เชื้อโรคเข้าไปได้
  • สภาพร่างกายของคนไข้: ผู้ที่มีโรคประจำตัวบางอย่าง เช่น เบาหวาน หรือผู้ที่สูบบุหรี่จัด อาจมีภูมิต้านทานต่ำและแผลหายช้ากว่าปกติ ทำให้เสี่ยงต่อการติดเชื้อได้ง่ายขึ้น
  • การเกิดโพรงรอบซิลิโคน (Seroma): การเกิดโพรงที่มีของเหลวสะสมอยู่รอบแท่งซิลิโคน ซึ่งหากของเหลวนี้มีการปนเปื้อนของเชื้อโรค ก็จะกลายเป็นแหล่งเพาะเชื้อชั้นดี

7 สัญญาณเตือนสำคัญ! อาการแบบไหนที่ต้องรีบพบแพทย์

นี่คืออาการสำคัญที่ต้องจับตาดูอย่างใกล้ชิดในช่วง 1-4 สัปดาห์แรกหลังผ่าตัด หากพบข้อใดข้อหนึ่ง ควรรีบติดต่อคลินิกทันที

สัญญาณเตือนลักษณะอาการ
อาการปวดรุนแรงขึ้นปวดบวมบริเวณจมูกมากขึ้นเรื่อยๆ แม้จะผ่านช่วง 3 วันแรกไปแล้ว และยาแก้ปวดก็ช่วยไม่ได้
จมูกบวมแดงผิดปกติมีอาการบวมแดงและร้อนที่บริเวณจมูก โดยเฉพาะที่ปลายจมูกหรือสันจมูก
มีของเหลวผิดปกติไหลจากแผลมีน้ำเหลืองขุ่น, หนอง, หรือของเหลวมีกลิ่นเหม็นไหลซึมออกมาจากแผลผ่าตัด
สีผิวหนังที่จมูกเปลี่ยนไปผิวหนังบริเวณปลายจมูกมีสีคล้ำหรือแดงจัดขึ้นอย่างต่อเนื่อง อาจรู้สึกตึงและมันวาว
มีไข้สูงรู้สึกครั่นเนื้อครั่นตัว มีไข้สูงเกิน 38 องศาเซลเซียส โดยไม่มีสาเหตุจากโรคอื่น
แผลผ่าตัดแยกสังเกตเห็นว่าแผลที่เย็บไว้มีการปริแยกออกจากกัน
ซิลิโคนดูเหมือนจะขยับรู้สึกว่าแท่งซิลิโคนขยับไปมาได้ หรือมองเห็นขอบซิลิโคนชัดเจนขึ้นร่วมกับอาการบวมแดง

จมูกบวมแดงและปวดไม่ลดลง

อาการบวมและปวดควรจะค่อยๆ ดีขึ้นหลังผ่าน 72 ชั่วโมงแรกไปแล้ว หากกลับปวดและบวมแดงมากขึ้น นี่คือสัญญาณผิดปกติอันดับแรก

ปลายจมูกตึงและเงา

เป็นอาการที่บ่งบอกว่าเกิดการอักเสบและมีแรงดันอยู่ภายในโพรงจมูก ซึ่งเป็นสัญญาณที่น่ากังวล

การมีหนองไหล

นี่คือสัญญาณที่ชัดเจนที่สุดของการติดเชื้อ ไม่ควรนิ่งนอนใจและต้องรีบพบแพทย์โดยด่วน

การป้องกันคือหัวใจสำคัญ: ทำอย่างไรให้ห่างไกลการติดเชื้อ?

  • เลือกคลินิกและศัลยแพทย์ที่ได้มาตรฐาน: ตรวจสอบให้แน่ใจว่าคลินิกมีใบอนุญาตถูกต้อง มีห้องผ่าตัดที่สะอาด ปลอดภัย และศัลยแพทย์มีความเชี่ยวชาญจริง
  • ปฏิบัติตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด: ทานยาปฏิชีวนะให้ครบตามที่แพทย์สั่ง และดูแลความสะอาดของแผลตามคำแนะนำอย่างละเอียด
  • หลีกเลี่ยงพฤติกรรมเสี่ยง: งดสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์, หลีกเลี่ยงการสัมผัสใบหน้า, และระวังไม่ให้แผลโดนน้ำจนกว่าจะตัดไหม
  • สังเกตอาการตัวเองทุกวัน: ในช่วง 2 สัปดาห์แรก ควรใช้เวลส่องกระจกเพื่อสังเกตความเปลี่ยนแปลงของจมูกทุกวัน

เมื่อเกิดการติดเชื้อขึ้นแล้ว ต้องรักษาอย่างไร?

แนวทางการรักษาจะขึ้นอยู่กับความรุนแรงของอาการ หากเป็นเพียงระยะเริ่มต้น แพทย์อาจให้ยาปฏิชีวนะแบบรับประทานหรือแบบฉีดเพื่อควบคุมเชื้อ แต่หากการอักเสบรุนแรงและควบคุมไม่ได้ ความจำเป็นสูงสุดคือการผ่าตัดเพื่อนำซิลิโคนออกและทำความสะอาดโพรงจมูก เพื่อรักษาเนื้อเยื่อจมูกไว้ให้ได้มากที่สุด และต้องรออย่างน้อย 3-6 เดือนจึงจะสามารถพิจารณาเสริมใหม่ได้

BeProud Clinic: ยึดมั่นมาตรฐานความปลอดภัยเป็นอันดับหนึ่ง

เราเข้าใจดีว่าภาวะ เสริมจมูก ติดเชื้อ คือฝันร้ายที่ไม่มีใครอยากเจอ ที่ BeProud Clinic ความปลอดภัยของคนไข้จึงเป็นสิ่งที่เราให้ความสำคัญเหนือสิ่งอื่นใด เราสร้างมาตรฐานที่เข้มงวดในทุกขั้นตอนเพื่อลดความเสี่ยงให้ใกล้เคียงกับศูนย์มากที่สุด

ห้องผ่าตัดปลอดเชื้อและทีมงานมืออาชีพ

เราลงทุนกับระบบห้องผ่าตัดที่ได้มาตรฐานสากล มีการควบคุมความสะอาดและฆ่าเชื้ออุปกรณ์ทุกชิ้นอย่างรัดกุม พร้อมทีมพยาบาลและผู้ช่วยที่ผ่านการฝึกอบรมมาเป็นอย่างดี เพื่อให้แน่ใจว่าทุกขั้นตอนการผ่าตัดจะสะอาดและปลอดภัย

การให้ข้อมูลที่โปร่งใสคือหน้าที่ของเรา

ทีมแพทย์ของเรา นำโดย นายแพทย์กิตติ์ธนัช แต้รัตนชัย (หมออาร์ม) ไม่เพียงแต่มุ่งเน้นที่ผลลัพธ์ความงาม แต่ยังให้ความสำคัญกับการให้ข้อมูลความเสี่ยงและแนวทางการป้องกันแก่คนไข้อย่างตรงไปตรงมา เพื่อให้คุณเข้าใจและพร้อมที่จะดูแลตัวเองอย่างดีที่สุด

จากประสบการณ์ตรง: เราพร้อมรับมือทุกสถานการณ์

ด้วยประสบการณ์ในการดูแลเคสศัลยกรรมจมูกมาอย่างยาวนาน เรามีกระบวนการที่ชัดเจนในการเฝ้าระวังและติดตามอาการหลังผ่าตัด ทีมงานของเราพร้อมให้คำปรึกษาและประเมินอาการผิดปกติได้อย่างรวดเร็ว เพื่อให้คุณมั่นใจได้ว่าจะได้รับการดูแลที่ทันท่วงทีหากเกิดปัญหา

กังวลใจ? อย่าเก็บไว้คนเดียว ปรึกษาเราได้ทันที

หากคุณเพิ่งเสริมจมูกและมีอาการที่น่ากังวล หรือมีคำถามเกี่ยวกับความเสี่ยงต่างๆ อย่าลังเลที่จะติดต่อเราเพื่อขอรับคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญ

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับภาวะเสริมจมูกติดเชื้อ

โอกาสที่จะเกิดการติดเชื้อหลังเสริมจมูกมีมากน้อยแค่ไหน?
ในคลินิกหรือโรงพยาบาลที่ได้มาตรฐานสากล โอกาสเกิดการติดเชื้อนั้นมีน้อยมาก (น้อยกว่า 1%) แต่ความเสี่ยงจะเพิ่มขึ้นหากเลือกทำในสถานพยาบาลที่ไม่ได้มาตรฐาน หรือละเลยการดูแลตัวเองหลังผ่าตัด

ถ้าถอดซิลิโคนออกแล้ว จมูกจะเสียทรงถาวรหรือไม่?
หลังถอดซิลิโคน จมูกจะยุบลงและอาจเกิดพังผืดได้ ซึ่งอาจทำให้รูปทรงเปลี่ยนไปจากเดิมก่อนเสริมได้บ้าง แต่หลังจากพักเนื้อเยื่อจนแข็งแรงดีแล้ว (3-6 เดือน) สามารถกลับมาผ่าตัดเสริมใหม่เพื่อสร้างรูปทรงที่สวยงามได้อีกครั้ง

การทานยาปฏิชีวนะสามารถป้องกันการติดเชื้อได้ 100% หรือไม่?
ยาปฏิชีวนะช่วยลดความเสี่ยงได้อย่างมาก แต่ไม่สามารถป้องกันได้ 100% การป้องกันที่ดีที่สุดคือการปฏิบัติตัวตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัดร่วมกับการทานยาให้ครบ

หลังจากผ่านไป 1 เดือนแล้ว ยังมีโอกาสติดเชื้ออยู่ไหม?
โอกาสติดเชื้อจะลดลงอย่างมากหลังจากแผลสมานตัวดีแล้ว (ประมาณ 2-4 สัปดาห์) แต่หากร่างกายอ่อนแอลงมาก หรือเกิดอุบัติเหตุกระทบกระเทือนจมูกรุนแรง ก็อาจเกิดการอักเสบขึ้นได้ในภายหลัง แต่นับว่าเป็นกรณีที่พบได้น้อยมาก

ทำไมบางคนถึงติดเชื้อทั้งที่ดูแลตัวเองดีมาก?
ในบางกรณีที่พบได้น้อยมาก อาจเกิดจากเชื้อโรคที่แฝงตัวอยู่ในร่างกายของคนไข้เอง ซึ่งเมื่อร่างกายอ่อนแอลงหลังผ่าตัด เชื้อโรคเหล่านั้นอาจก่อให้เกิดการอักเสบขึ้นได้ ซึ่งเป็นปัจจัยที่ควบคุมได้ยาก

References

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save
Scroll to Top